ผู้เขียน หัวข้อ: แพะบ้าสั่งเด้ง"สโตเกอร์"สังเวยผลงานห่วยจมบ๊วยไม่ชนะในลีก  (อ่าน 485 ครั้ง)

คนรักบอล

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1646
    • ดูรายละเอียด

   เอฟเซ โคโลญจ์นทีมบ๊วยบุนเดสลีก้าอั้นมานานในที่สุดก็ต้องปลดปีเตอร์ สโตเกอร์กุนซือคนเก่งของพวกเขาพ้นจากตำแหน่งเทรนเนอร์หลังจากยังควานหาชัยชนะไม่เจอในลีก

ลีกสูงสุดเมืองเบียร์ฤดูกาลนี้ผ่านไป 14 นัด'แพะบ้า'ผลงานย่ำแย่สุดขีดเก็บได้แค่ 3 แต้มจาก 14 นัดซึ่งมาจากการเสมอทั้งหมด

แม้เมื่อวันเสาร์โคโลญจ์นทำเซอร์ไพรส์บุกเสมอชาลเก้ 04 2-2 แต่ล่าสุดสโมสรประกาศผ่านช่องทางออนไลน์ตัดสินใจแยกทางกับสโตเกอร์

โคโลญจ์นยกเลิกสัญญาเฮด โค้ชชาวออสเตรียนด้วยความยินยอมทั้งสองฝ่ายก่อนกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนของปี 2020

พร้อมกันนั้นโคโลญจ์นได้ดันสเตฟาน รูเธ่นเบ็คกุนซือทีมรุ่น U19 ขึ้นคุมชุดใหญ่จนถึงช่วงเบรคหนีหนาวส่วนทีมงานจะประกอบด้วยอดีตนักเตะของสโมสรอย่างเควิน แม็คเคนน่า, มาร์คุส ดอย์น และโค้ชผู้รักษาประตูอเล็กซานเดอร์ บาเด้

สโตเกอร์เปิดใจว่า "มันชัดเจนว่าตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ว่าเกมกับชาลเก้คือเกมสุดท้ายของเรา เราตัดสินใจรอที่จะประกาศในวันอาทิตย์เพื่อที่จะได้มีสมาธิกับเกมอย่างเต็มที่ การตัดสินใจมีขึ้นและนำมาซึ่งความชัดเจนอีกครั้งก็เพื่อประโยชน์สูงสุดของสโมสรและโดยเฉพาะอย่างยิ่งทีม"

"ถึงนักเตะ, สตาฟฟ์ที่สโมสร, แฟนๆ และชาวเมืองโคโลญจ์น พวกคุณได้กุมหัวใจของผมและแมนนี่ ชมิด(ผู้ช่วยผู้จัดการทีมของสโตเกอร์) เราขอเอาใจช่วยให้คนที่มาทำทีมต่อจากผมนำเอฟเซ โคโลญจ์นอยู่รอดในบุนเดสลีก้าต่อไปได้"

สโตเกอร์ย้ายจากออสเตรีย เวียนนามาคุมโคโลญจ์นตั้งแต่ซีซั่น 2013/14 นำทีมคว้าแชมป์ลีก้า 2 เลื่อนชั้นสู่บุนเดสลีก้าและจากนั้น 3 ปีบนลีกสูงสุดเขาพาทีมจนอันดับ 12, 9 และ 5 ตามลำดับแล้วก็กลายเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่คุมทีมถึง 5 ปีติดต่อกันรวมทั้งสิ้น 168 นัด

ฤดูกาลนี้แม้ผลงานในลีกดำดิ่งแต่ในยูฟ่า ยูโรป้า ลีกโคโลญจ์นยังมีลุ้นเข้ารอบน็อกเอาท์หากบุกชนะเซอร์เวน่า ซเวซด้าที่แต้มเท่ากันได้ในนัดสุดท้าย